การใช้งาน LANKO 226 K11 FLEX สำหรับงานระบบกันซึม
การเตรียมพื้นผิว
- ให้ทำการสกัดพื้นผิวส่วนที่ไม่แข็งแรงหรือหลุดล่อนออกจนเหลือแต่ส่วนที่แข็งแรง ทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากคราบสกปรก ฝุ่นผง หรือเศษวัสดุต่างๆ
- สำหรับคอนกรีตใหม่ควรบ่มพื้นอย่างน้อย 28 วันและถ้าเป็นปูนฉาบควรทิ้งพื้นผิวอย่างน้อย 7 วัน
- สำหรับบริเวณที่เป็นรอยแตกร้าว รู โพรง จะต้องซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อน อาจจะซ่อมด้วย LANKO 731 LANKOREP STRUCTURE
- บริเวณที่เป็นเหลี่ยมมุม หรือเป็นสัน ต้องลบเหลี่ยมไม่ให้เป็นสัน หรือทำบัวลบมุม
- บ่มน้ำให้พื้นผิวมีความอิ่มตัวก่อนการทำงาน
การเตรียมวัสดุ
- เทส่วนน้ำยา (Part B) ลงในภาชนะที่เตรียมไว้ก่อน
- เทส่วนผงปูน (Part A) ลงไปในภาชนะ ใช้เครื่องผสมที่ความเร็วรอบอย่างน้อย 500 รอบต่อนาที ปั่นจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
- ผสมต่อเนื่องจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นทิ้งส่วนผสมไว้สักครู่ก่อนนำไปใช้งาน
การทำงาน
- ทา LANKO 226 K11 FLEX ลงบนพื้นผิวให้ทั่ว ด้วยแปรงหรือเกรียง โดยสามารถทาในแนวตั้งหรือแนวนอนก็ได้ในอัตราส่วนโดยประมาณ 1-1.5 กก. ต่อ ตร.ม. ต่อการทา 1 ชั้น
- ทิ้งให้ผิวชั้นแรกแห้งประมาณ 2 – 4 ชม. หรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ จากนั้นทา LANKO 226 K11 FLEX ชั้นที่ 2 (ทาอย่างน้อย 2 ชั้น)
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรทำงานกลางแดดจัด หรือควรมีผ้าใบบังขณะทำงาน
- ให้ทากันซึม LANKO 226 K11 FLEX อย่างน้อย 2 ชั้น และมีความหนารวมประมาณ 1-1.5 มม.
- ควรทิ้งให้กันซึม LANKO 226 K11 FLEX แห้งเรียบร้อยดีก่อนการปูกระเบื้อง อย่างน้อย 3 วัน
ขั้นตอนการทำงานกันซึม LANKO 226 K11 FLEX
- Detail A รอยต่อระหว่างผนังกับพื้นคอนกรีต
- Detail B รอยต่อเข้ามุมระหว่างผนังกับผนัง (แนวดิ่ง)
- Detail C รอยต่อรอบท่อในแนวตั้ง
- Detail D รอบท่อในแนวนอน
ขั้นตอนการปูกระเบื้อง
ผลิตภัณฑ์ปูนกาว DACVO Super TTB และกาวยาแนว DAVCO Extra Plus